Twitter Web Viewer

ยินดีต้อนรับเข้าสู่เดือนแห่งความหลากหลาย! สายเด็กขอเป็นส่วนหนึ่งในการร่วมเฉลิมฉลองความหลากหลายนี้ด้วยเช่นกันนะคะ ว่าแต่พูดถึงความหลากหลายทางเพศแล้ว เรารู้จักว่ามัน “หลากหลาย” มากแค่ไหนกันหนอ . ก่อนที่เราจะไปถึงชื่อเรียกนู่น นี่ นั่น เพศโน้น เพศนู้น เรามาทำความเข้าใจกันก่อนว่า “เพศ” ในสังคมเรามีหลากหลายมิติมาก ๆ และมิติต่าง ๆ ที่ว่านั้น ได้แก่ . เพศกำเนิด (Sex Assigned at Birth) – คือเพศที่แพทย์กำหนดให้ตั้งแต่เกิด บางครั้งเลยเรียกว่า “เพศกำหนดโดยแพทย์” โดยการที่แพทย์จะบอกว่าเราเป็นเพศอะไรตอนคลอดนั้น จะดูจากอวัยวะเพศที่เห็นด้วยตาเปล่า เช่น ชาย หญิง หรืออินเตอร์เซ็กส์ (Intersex) (ซึ่งบางครั้งจะเกิดการ “ผ่าตัดแก้ไข” ในทารกอินเตอร์เซ็กส์ ประมาณว่า “แก้” ให้เป็นชายสิ “ตัด” ให้เป็นหญิงสิ ซึ่งนี่นับว่าเป็นหนึ่งในการละเมิดสิทธิของเด็กนะคะ อย่างประเทศกรีซเขาก็แบนการผ่าตัดนี้แล้วนะ) . เพศสภาพ (Gender Identity) – คือความรู้สึกของตัวเองว่าเป็นเพศอะไร โดยตัวเราเองที่เป็นคนกำหนด เพราะไม่มีใครรู้จักตัวเราดีไปกว่าตัวเราเอง บางคนอาจรู้สึกเป็นเพศที่ “ตรง” (cis) กับเพศกำเนิด เรียกว่าคนตรงเพศ (cisgender) บางคนอาจรู้สึกว่าเราอยู่ “ข้าม” (trans) ออกจากกล่องเพศกำเนิดไปยังกล่องเพศใดก็ได้ เรียกว่าคนข้ามเพศ (transgender) (ย้ำอีกที ว่านี่คือ “ความรู้สึก” เพราะงั้น ถ้าเรา “รู้สึก” ว่าเป็นคนข้ามเพศ เราก็คือคนข้ามเพศ ไม่ต้องรอให้เข้าสู่ “กระบวนการ” ข้ามเพศนะ) นอกจากนี้ ระหว่างชายหญิงตรงเพศหรือข้ามเพศ ยังมีเพศที่ไม่ยึดโยงกับความเป็นชายหรือหญิงเพียงอย่างเดียว อย่าง Non-Binary ด้วย (นอนไบนารี ก็นับว่าเป็นเพศสภาพที่ไม่สอดคล้องกับเพศกำเนิด จึงถือเป็นคนข้ามเพศเช่นกัน แต่ไม่ใช่นอนไบนารีทุกคนจะสะดวกใจเรียกตัวเองว่าเป็นคนข้ามเพศ) ซึ่งอาจจะแยกย่อยไปอีก เช่น รู้สึกว่าเพศของตัวเองลื่นไหลไม่หยุดนิ่ง (genderfluid) รู้สึกว่าตัวเองไม่ได้เป็นเพศอะไรเลย (Agender) หรือรู้สึกว่าตัวเองมีมากกว่า 1 เพศในเวลาเดียวกัน (Bigender / Polygender) โดยเราไม่จำเป็นต้องนิยามตัวตนในกรอบแห่งเพศเลยก็ได้ . เพศวิถี (Sexual Orientation) – คือความดึงดูดทางเพศ ความดึงดูดนี้ก็มีแต่เราเองที่ตอบได้เช่นกันว่าเราชอบเพศอะไร เช่น ชอบคนต่างเพศ (Heterosexual) ชอบเพศเดียวกัน (Homosexual) หรือชอบได้หลายเพศ (Bisexual, Pansexual) ในอดีต คนจะรู้จัก ไบเซ็กชวล ในฐานะชอบคนสองเพศ คือชายและหญิง ปัจจุบันคำว่าไบเซ็กชวล ไม่ได้จำกัดถึงแค่ชายและหญิงเท่านั้น (เพราะเราได้ตระหนักรู้เรื่องนอนไบนารี่เพิ่มขึ้น) และมีความหมายว่า “ชอบมากกว่า 1 เพศ” (ก็คือ2เป็นต้นไปไงล่ะ คำว่า Bi ยังไม่หายไปไหนน้า) ส่วนแพนเซ็กชวล หมายถึง ชอบคนโดยที่ไม่ได้สนใจว่าเขาจะเป็นเพศอะไร หรือชอบโดยที่ไม่ได้มองเรื่องเพศเป็นหลักจ้ะ ไม่ใช่ได้หมดก็สดชื่นเน้อ เข้าใจผิดเน้อ . ที่พี่สายเด็กอยากมาชวนคุยเรื่องนี้ เพราะยังมีเด็กหลายคนถูกบังคับให้เป็นในสิ่งที่ไม่ใช่ ซึ่งอาจนำไปสู่ ความทุกข์ใจและการถูกเลือกปฏิบัติ การเข้าใจความแตกต่างนี้จะช่วยให้เรายอมรับตัวเองและเคารพผู้อื่นนะคะ หวังว่าในเดือนนี้ จะเริ่มต้นด้วยความใจดีต่อกันและกันนะ . #สายเด็ก1387# #Saidek1387# #ChildlineThailand# #LGBTQIANplus# #pridemonth# #เข้าใจเพศเข้าใจเด็ก#

อะไรทำให้เราต้อง “เปิดตัว” ? การเปิดตัว หรือ Coming Out คือการบอกอัตลักษณ์ทางเพศให้คนอื่นรู้ เพราะสังคมดันเหมารวมไปแล้วว่า แต่ละคนต้องเป็นคนตรงเพศ (cisgender) ที่รักต่างเพศ (heterosexual) หลายคนจึงต้องออกมาประกาศว่าฉันไม่ใช่ซะหน่อย โปรดเคารพฉันในแบบที่ฉันเป็นเถอะนะ ซึ่งก็ไม่ใช่ทุกคนจะเปิดตัวกับคนรอบข้าง ด้วยปัจจัยหลาย ๆ อย่าง เช่น ความกดดัน ความคาดหวัง และความปลอดภัย . อีกปัญหาหนึ่งที่มักพบเจอได้บ่อย ๆ คือการเปิดตัวแทนคนอื่น หรือบังคับให้เปิดตัว ซึ่งคนทำอาจจะไม่คิดอะไร “ถ้าเธอไม่กล้า ฉันจะพูดแทนเธอเอง” อาจฟังดูเป็นความหวังดี แต่เป็นการละเมิดสิทธิส่วนบุคคล เพราะอย่างที่บอกไป หลายคนอาจมีปัจจัยหลาย ๆ อย่างที่ทำให้ไม่สะดวกที่จะเปิดตัวในเวลานั้น ๆ เช่น สายตาจากครอบครัว ที่ ณ ตอนนั้นอาจโดนทำร้ายร่างกายหรือจิตใจถ้าพูดออกไป เลยเปิดตัวได้แค่กับเพื่อนเท่านั้น ถ้าเพื่อนไปบอกครอบครัวแทน ก็ไม่มีอะไรมารับประกันได้เลยว่าเขาจะปลอดภัย . ทั้งนี้ทั้งนั้น พี่สายเด็กไม่ได้จะบอกว่าการเป็นเพศหลากหลายต้องหลบซ่อน แต่สิ่งที่ต้องคำนึงถึงเป็นอันดับแรกคือความปลอดภัย น่าเศร้าที่ไม่ใช่หน้าที่ของเราเลยที่ต้องมาอดทนกับสิ่งเหล่านี้ ทางออกที่ดีที่สุดคือการที่สังคมให้ความรู้ ให้ความเข้าใจ ไม่มองด้วยสายตาอคติและไม่คิดว่าเป็นความผิดปกติ ให้ครอบครัวเป็นพื้นที่ปลอดภัยแก่น้อง ๆ พี่สายเด็กอยากฝากถึงผู้ใหญ่ที่รู้สึกว่า “ฉันโอเคกับเพศหลากหลายนะ ตราบใดที่พวกเขาไม่ได้เป็น” ว่าลูกหลานของคุณไม่ได้ “เปลี่ยนไป” เป็นอื่น เขาก็คือเขา เพียงแต่เขาจะปกปิดตัวตนหรือไม่ หากอยากเป็นครอบครัวที่สามารถคุยได้ทุกเรื่อง ควรสร้างความสบายใจโดยไม่ตัดสิน ไม่ใช่แค่เรื่องเพศเท่านั้น แต่รวมไปถึงเรื่องอื่น ๆ ในบ้านด้วย เมื่อเกิดมา ลูกหลานย่อมรักคุณผู้ปกครองอยู่แล้ว จากนี้ก็ขึ้นอยู่กับคุณผู้ปกครองแล้วค่ะที่จะให้ความรักเขามากแค่ไหน การเป็นเพศหลากหลาย ไม่ได้ “เลือก” ที่จะเป็นได้ (เลยไม่ค่อยแนะนำให้ใช้คำว่าเพศทางเลือกเท่าไหร่ เพราะอาจสร้างความสับสน) หากคุณโอเคกับเพศหลากหลายจริง สายตาที่มองลูกหลานของคุณจะไม่เปลี่ยนไป เขายังเป็นเด็กที่คุณเห็นมาตั้งแต่เล็กแต่น้อยเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือความกล้าที่จะเผชิญกับผลลัพธ์ในสิ่งที่เขาไม่รู้นะคะ . พี่สายเด็กอยากเห็นสังคมที่โอบรับความหลากหลาย ที่ไม่ตั้งค่าว่าแต่ละคนต้องเป็นคนตรงเพศรักต่างเพศว่า “เป็นค่าเริ่มต้น” ณ ตอนนั้น การตัดสินใจว่าจะเปิดตัวหรือไม่ อาจจะไม่จำเป็นเสมอไปก็ได้นะ . #สายเด็ก1387# #Saidek1387# #ChildlineThailand# #LGBTQIANplus# #pridemonth# #เข้าใจเพศเข้าใจเด็ก#

ทุกคนมีตัวตน และอยากให้ทุกคนเคารพตัวตนนั้น ๆ ยกตัวอย่างง่าย ๆ ถ้าสมมุติเราเกิดมาชื่อ A แต่เราไม่ชอบชื่อนี้ เลยเปลี่ยนชื่อเป็น B เราก็อยากให้เพื่อนเรียกเราว่า B ใช่ไหมล่ะ ถ้าเพื่อนเอาแต่ล้อ ไอ้ A ๆๆๆๆ คงจะหงุดหงิดน่าดู . แต่สำหรับเพศหลากหลายที่อยากเปลี่ยนชื่อหรือสรรพนาม มันจะไม่ได้เป็นแค่ความหงุดหงิด มันจะนับเป็นการไม่เคารพตัวตน ลบเลือนอัตลักษณ์ ตัดสิน ดูถูก หรืออย่างแย่ที่สุดจะนำมาซึ่งความเกลียดตัวเองและนำไปสู่โรคซึมเศร้าได้ น้อง ๆ คิดว่าคนที่รวบรวมความกล้าที่จะบอกสังคมว่าฉันเป็นอะไร สมควรที่จะถูกล้อเลียนจริง ๆ หรือ ถ้าหากกำลังมีความคิดที่ว่า “ก็ฉันไม่สนใจนี่” พี่สายเด็กก็อยากให้น้อง ๆ ทบทวนความคิดใหม่ดี ๆ นะ ว่าตัวเองกำลังใจร้ายต่อเพื่อนร่วมโลกอยู่ไหม เป็นส่วนหนึ่งของการสร้างสังคมที่ดีหรือไม่ แล้วเราอยากเห็นสังคมแบบไหนในอนาคต ถ้าเราอยากให้คนอื่นเคารพตัวเอง เราต้องเคารพคนอื่น ไม่เลือกปฏิบัติด้วยนะ . สำหรับคนที่คิดว่า เพศหลากหลายนี่เรื่องมากจัง พี่สายเด็กก็อยากให้ลองเปิดใจเรียนรู้ความหลากหลายทางเพศ ที่ไม่ใช่แค่การอ่านอย่างเดียว สนับสนุนให้เข้าไปรู้จัก ไปคุยกับเพื่อน ๆ ที่มีความหลากหลายทางเพศเพื่อรู้จักตัวตนของเขาจริง ๆ เมื่อได้สัมผัสประสบการณ์แล้ว และได้ทำความเข้าใจโดยไม่ตัดสิน น้อง ๆ จะรู้ได้เอง ว่าคำพูดแบบไหนไม่ควรพูด การกระทำแบบไหนไม่ควรทำ เพื่อความสบายใจและความปลอดภัยทางกายและจิตใจของเพื่อน ๆ เพศหลากหลาย แต่ที่สำคัญ คือการ “ไม่คิดแทน” ว่าเพื่อนฉันต้องโอเคกับสิ่งนี้แน่เลย เพราะไม่มีใครรู้เรื่องเกี่ยวกับคน ๆ นั้นได้ดีกว่าเจ้าตัวเอง หากไม่รู้ ก็ควรถาม หากเผลอทำอะไรที่กระทบจิตใจกันไปแล้ว (เช่นการเรียกสรรพนามผิด) ไม่จำเป็นต้องหงุดหงิดใส่เพื่อนเลยค่ะ เพียงขอโทษ แล้วไม่ทำอีก ง่ายใช่ไหมล่ะคะ ก็เหมือนกับเรื่องอื่น ๆ ในความสัมพันธ์นั่นแหละเนอะ . การไม่คิดแทน ก็เป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนเพื่อน และไม่กดดันให้ใครเป็นสิ่งที่คนรอบข้างคาดหวังด้วยนะคะ ไม่ต้องพูดถึงเรื่องเพศเลย เรื่องเรียนก็ได้ ถ้ามีคนมาคาดหวังผลการเรียนเรา ให้เราเป็นเด็กเรียนจ๋า ๆ ก็คงเครียดไม่น้อย แล้วถ้าเป็นเรื่องตัวตนทางเพศที่เป็นส่วนหนึ่งของเขา ที่อยู่กับตัวเขา “ตลอดเวลา” หากถูกคาดหวังจะรู้สึกกดดันมากขนาดไหน พี่สายเด็กอยากให้น้อง ๆ และเพื่อน ๆ ของน้อง ๆ เป็นพื้นที่ปลอดภัยของกันและกัน อยู่ร่วมกันอย่างไม่ตัดสินนะคะ . #สายเด็ก1387# #Saidek1387# #ChildlineThailand# #LGBTQIANplus# #pridemonth# #เข้าใจเพศเข้าใจเด็ก# #SUFASEC#